วรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท ประกาศเดินหน้าปักหมุดเชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศ พร้อมขยายเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ เน้นย้ำความสำเร็จในฐานะ “สายการบินโลว์คอสต์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2020” จากนิตยสาร โกลบอล บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน
เดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่และกลับมาให้บริการเส้นทางบินข้ามภาคในประเทศ
เร็ว ๆ นี้ สายการบินฯ ประกาศขยายเส้นทางบินใหม่ข้ามภูมิภาค ระหว่าง ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และอุดรธานี พร้อมกลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่าง ภูเก็ต สู่ เชียงราย และ หาดใหญ่ สู่ เชียงราย เดินหน้ามอบตัวเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร เสริมกำลังสนับสนุน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)”
เส้นทางบินใหม่ระหว่างภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และ ภูเก็ต สู่ อุดรธานี จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564 และ 1 ตุลาคม 2564 ตามลำดับ ขณะที่เส้นทางบินระหว่าง ภูเก็ต สู่ เชียงราย และเส้นทางบินระหว่าง หาดใหญ่ สู่ เชียงราย จะกลับมาให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม 2564
จังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งยังเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยที่รองรับโครงการแซนด์บ็อกซ์ สายการบินไทยเวียตเจ็ทเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการบินแห่งที่สอง โดยมีอากาศยานและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประจำการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ยังผลให้สามารถให้บริการเที่ยวบินจากภูเก็ตได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ สายการบินฯ คาดว่าการเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้งภายในและระหว่างประเทศ รวมทั้งการกลับมาให้บริการเส้นทางบินข้ามภูมิภาคภายในประเทศซึ่งเชื่อมต่อกับภูเก็ตในครั้งนี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกสบายและเข้าถึงได้มากขึ้น ท่ามกลางการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
ประกาศเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่สิงคโปร์และไทเป
ไม่นานหลังการประกาศเส้นทางบินข้ามภาคในประเทศ สายการบินฯ ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ ระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์ และ ไทเป พร้อมเที่ยวบินตรงเชื่อมระหว่างภูเก็ต และ สิงคโปร์
เส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพฯ (BKK) สู่ ไทเป (TPE) และสิงคโปร์ (SIN) จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 และ 21 ตุลาคม 2564 ตามลำดับ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สายการบินฯ ยังได้ให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากไทเปมายังกรุงเทพฯ มอบตัวเลือกการเดินทางเชื่อมต่อ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในช่วงแรกของการให้บริการ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่ ไทเป และสิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ – ไทเป จะให้บริการทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และเส้นทาง กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ จะให้บริการทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และอาทิตย์ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์ โดยสายการบินฯ จะปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินของทั้งสามเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและตอบรับกับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น
พร้อมบินเส้นทางในประเทศ ภายหลังการผ่อนปรนมาตรการระงับการเดินทางฯ
ตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าด้วยการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางและอนุญาตให้เที่ยวบินภายในประเทศทำการบินเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายการบินฯ ประกาศพร้อมให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ในทุกท่าอากาศยานที่สายการบินฯ ทำการบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ เชียงราย กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี
ผู้ถือบัตรโดยสารภายในประเทศของไทยเวียตเจ็ทที่มีช่วงวันเดินทางระหว่างวันที่ 1 – 30 กันยายน 2564 และประสงค์เปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง สามารถเลือกเปลี่ยนวันเดินทางโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยมีวันเดินทางใหม่ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (มีช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางได้) หรือสามารถเก็บวงเงินค่าโดยสาร (Credit Shell) เพื่อใช้ในการสำรองบัตรโดยสารในอนาคต จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vietjetair.com
เปิดตัวระบบเหรียญ “ฟันคอยน์ (FUNcoin)” บนโปรแกรมสมาชิกสกายฟัน (SkyFUN)
พร้อม ๆ กับการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน สายการบินฯ ได้เปิดตัว “สกายฟัน (SkyFUN)” โปรแกรมสมาชิกอย่างเป็นทางการของสายการบินฯ พร้อมระบบสะสมคะแนน “ฟันคอยน์ (FUN Coin)” มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าอีกระดับแก่ผู้โดยสาร ด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายจากสายการบินฯ และพันธมิตรจากทั่วทั้งภูมิภาค
“ฟันคอยน์” พัฒนาขึ้นโดยมุ่งยกระดับประสบการณ์แก่ผู้โดยสาร ด้วยระดับสมาชิกสามระดับ ได้แก่ ระดับซิลเวอร์ (Silver) ระดับโกลด์ (Gold) และระดับแพลตทินั่ม (Platinum) ซึ่งสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์แตกต่างกันตามระดับสถานะสมาชิก
“ฟันคอยน์” เป็นระบบสะสมเหรียญบนโปรแกรมสมาชิกสกายฟัน ซึ่งแตกต่างจากระบบสะสมคะแนนหรือสะสมไมล์ โดยฟันคอยน์เป็นตัวแทนของเหรียญแห่งโลกอนาคต เป็นตัวกำหนดระดับสถานะของสมาชิก ทั้งยังสามารถใช้แลกของรางวัลและสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ จากสายการบินฯ รวมทั้งพันธมิตรจากทั่วทั้งภูมิภาค สมาชิกสามารถรับฟันคอยน์ได้จากการชำระค่าบัตรโดยสาร รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าและบริการอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของสายการบินฯ ที่ www.vietjetair.com และบน “สกายช็อป (Sky Shop)” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของสายการบินฯ ที่ skyfunshop.vietjetair.com นอกจากนี้ สมาชิกยังจะได้รับเหรียญโบนัสเพิ่มในโอกาสพิเศษ อาทิ วันเกิด และการปรับระดับสมาชิก
ในช่วงแรก สมาชิกปัจจุบันของโปรแกรมสมาชิกสกายฟัน หรือ “สกายฟันเนอร์ (SkyFUNNER)” จะได้รับการปรับเข้าสู่ระบบฟันคอยน์โดยอัตโนมัติ โดย “คะแนน” คงเหลือที่สะสมถึง ณ ปัจจุบัน จะได้รับการแปลงเป็น “เหรียญ” ตามระบบใหม่ สมาชิกสามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันและจำนวนเหรียญคงเหลือโดยลงชื่อเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ของสายการบินฯ ตามปกติ
ผู้โดยสารที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของโปรแกรมสมาชิกสกายฟัน สามารถลงทะเบียนได้ฟรี ที่ www.vietjetair.com และเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ที่ funcoin.vietjetair.com/ สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นพัฒนาโปรแกรมสมาชิกสกายฟันและระบบฟันคอยน์ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ที่สมาชิกสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าและสนุกสนานไปกับการเดินทางมากขึ้นอีกระดับ สายการบินฯ มุ่งให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้โดยสารเป็นสำคัญ โดยขยายธุรกิจด้วยแนวคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อม ๆ กับการพัฒนาก้าวสู่โลกดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสารในทุก ๆ วัน
ในฐานะ “สายการบินโลว์คอสต์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2020” จากนิตยสาร โกลบอล บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สายการบินฯ ยังคงให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศและเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ระหว่างประเทศตามปกติ โดยให้บริการภายใต้มาตรการรักษาความสะอาดและความปลอดภัยสูงสุด พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารด้วยช่องทางการติดต่อที่หลากหลายและเข้าถึงได้ เพื่อให้สามารถให้บริการผู้โดยสารทุกท่านได้อย่างเต็มที่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด–19
###