ภาคอุตสาหกรรมฯ ผนึกภาครัฐ ฝ่าวิกฤตโควิด เปิดงานมหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ “Bangkok International Digital Content Festival 2021 (BIDC 2021) ครั้งที่ 8 ในรูปแบบออนไลน์เต็มสูบ ด้วยกิจกรรมเสวนาออนไลน์ เติมเต็มความรู้จากกูรูระดับโลกและไทย พร้อมเปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทย-เทศรวม 93 บริษัท และมอบรางวัล BIDC AWARDS ให้แก่ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปี เชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ในภาพรวมยังโตต่อเนื่อง และการจัดงาน BIDC ยังสร้าง GDP มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 10,700 ตำแหน่งงาน
ผศ.ดร.สุรพงษ์ เลิศสิทธิชัย นายกสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ และผู้แทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 นับจากปีที่ผ่านจนถึงปัจจุบันส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ปรับตัวเพื่อเดินหน้าธุรกิจเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ ซึ่งจากการคาดการณ์อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยและบิ๊กดาต้าในปี 2563 จะมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์จะขยายตัวขึ้นอีก 10.1% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 34,229 ล้านบาท เทียบกับปี 2562 ที่เติบโตเฉลี่ย 11.51% คิดเป็นมูลค่าตลาด 31,080 ล้านบาท และคาดว่า ปี 2564 จะมีมูลค่าตลาดที่ 3.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 15% และในปี 2565 -45,094 ล้านบาทและเติบโต 15% โดยเป็นการเติบโตทั้งในส่วนแอนิเมชั่น เกมและคาแรคเตอร์ (อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจและคาดการณ์ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลกับสถาบันไอเอ็มซี)
แม้จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ประกอบการยังใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเข้ามาตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล เพื่อจำหน่ายสินค้าต่างๆ อีกทั้งยังมองว่ายังเป็นการเพิ่มโอกาสของอุตสาหกรรมฯ เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ รองรับการขยายการเติบโตในอนาคต อาทิ กลุ่มอีเลิร์นนิงที่ยูสเซอร์ได้มีแพลตฟอร์มการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาคอนเทนท์ที่รองรับการเรียนรู้ใหม่ๆ และเข้าสู่การเรียนการสอนด้วยดิจิทัล 100% และในส่วนมหาวิทยาลัยมีการพัฒนาหลักสูตรด้านดิจิทัลคอนเทนท์ในสาขาต่างๆ เพื่อสร้างบุคลากรรองรับในอุตสาหกรรมฯ นี้ นอกจากนี้ กลุ่มภาพยนตร์การถ่ายภาพในสตูใหญ่ก็ใช้ดิจิทัลสกรีนเข้ามาใช้ในการถ่ายทำ รวมทั้งการใช้แอนิเมชั่นมาพัฒนาต่อยอดการถ่ายทำ โดยไม่ต้องไปสถานที่จริง ซึ่งช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้อีกด้วย ทั้งนี้ ในการจัดงานรูปแบบ Virtual Event ของ BIDC2021 ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นส่วนขับเคลื่อนให้การจัดกิจกรรมดำเนินต่อไปและเศรษฐกิจไม่หยุดชะงัก
ล่าสุด ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ และภาครัฐเดินหน้าผนึกกำลังจัดงาน Bangkok International Digital Content Festival 2021 หรือ BIDC 2021 เป็นงานมหกรรมของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือของภาคเอกชน ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) (TCEB) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ โดยมี 5 สมาคม ได้แก่ สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (BASA) สมาคมดิจิทัลคอนเทนท์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย (e-LAT) และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์เกมไทย (TGA) ซึ่งในครั้งนี้ได้มีพันธมิตรเข้าร่วมให้การสนับสนุนกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ (Webinar) คือ บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) ในการสร้างเม็ดเงินและมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยการส่งเสริมและสนับสนุน รวมถึงการสร้างเครือข่ายให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยสู่เวทีระดับโลก นับเป็นการผนึกความร่วมมืออย่างบูรณาการระหว่างภาคอุตสาหกรรมฯและภาครัฐอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับอย่างมากสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นและสร้างเศรษฐกิจประเทศให้แข็งแกร่งด้วย
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ซึ่งเป็นองค์กรในการกำกับดูแลของกระทรวงฯ และมีบทบาทเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยเล็งเห็นว่า การผนึกพลังร่วมกันของภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์เป็นการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างยั่งยืน และยังปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ New Normal ในขณะนี้ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตมากขึ้น ทั้งกิจกรรมออนไลน์ที่ช่วยสร้างความบันเทิงและผ่อนคลาย เช่น เกมออนไลน์ ผนวกกับแรงหนุนจากการแข่งกีฬา e-Sport ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ผู้บริโภครับสื่อดังกล่าวได้หลายช่องทาง เช่น Netflix และ YouTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นที่นิยม ซึ่งมีส่วนผลักดันและขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมบันเทิง รวมถึงธุรกิจด้านเกม แอนิเมชัน และคาแรคเตอร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของอุตสาหกรรมอีเลิร์นนิงของไทยโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจด้านนี้ขยายตัว เนื่องจากทุกภาคส่วนรวมไปถึงประชาชน นักเรียนได้ปรับตัวและใช้การเรียนการสอน รวมถึงการทำงานผ่านรูปแบบ Online Live Streaming มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่อุตสาหกรรมดิจิทัลด้วย
ดร. สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในนามของกระทรวงพาณิชย์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นและมีนโยบายที่จะผลักดันให้ดิจิทัลคอนเทนท์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวคิด Creative Economy และส่งเสริมให้ประเทศเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ (Digital Content Hub) เพื่อสอดคล้องกับนโยบาย 14 แผนงานประจำปี 2564 ของกระทรวงพาณิชย์ โดยได้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน BIDC มาอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปี เพื่อสร้างเวทีเจรจาธุรกิจในยุคดิจิทัล นำร่องสู่การพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการส่งเสริมและขยายช่องทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนท์ไทยสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผลการเจรจาการค้าจากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมดิจิทัลคอนเทนท์ไทย ในส่วนของแอนิเมชั่น คาแรคเตอร์ และเกม มีมูลค่ารวมกว่า 2,700 ล้านบาท และจากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งไทยส่งผลให้ภาคธุรกิจได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบสู่วิถี New Normal จึงทำให้การจัดงาน BIDC 2021 ในกิจกรรมเจรจาธุรกิจเป็นรูปแบบออนไลน์เป็นปีที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 200 คู่และสร้างมูลค่าไม่น้อยกว่า 490 ล้านบาท โดยปีนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการด้านดิจิทัลคอนเทนท์ทั่วโลกเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ จำนวน 36 บริษัท จาก 11 ประเทศ และมีผู้ประกอบการไทยร่วมเจรจาธุรกิจในครั้งนี้จำนวน 57 บริษัท ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยให้เกิดความแข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับบนเวทีการค้าโลก
นิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้มุ่งเน้นให้งานนี้เป็นการรวมตัวประชุมของบุคคลากรในวงการธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 และจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้งานเทศกาลต่างๆ ต้องปรับตัวไปสู่การจัดงานเทศกาลรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หรือ Hybrid ดังนั้น ทีเส็บจึงมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีออนไลน์ในการจัดงาน เพื่อให้ยังคงสามารถจัดงานได้รวมถึงการรักษาฐานลูกค้าที่ดีของงานไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ตลอดจนการส่งเสริมและรักษาฐานอุตสาหกรรมการจัดงานอีเวนท์และเทศกาลตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ทีเส็บได้จัดเก็บข้อมูลการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน BIDC พบว่า งาน BIDC ได้สร้างผลทางเศรษฐกิจต่อรายได้ประชาชาติ (GDP) มีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้ 233 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานกว่า 10,700 ตำแหน่ง
ด้าน พิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ CEA ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริม งาน BIDC นี้ เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของไทยซึ่งสอดรับกับทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำหรับงาน BIDC 2021 ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่ภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยที่มีเวทีแสดงศักยภาพ และความพร้อมของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ของไทยแก่ผู้ที่สนใจทั้งในระดับประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งยังเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างองค์ความรู้ทักษะจำเป็นต่างๆ ผ่านงานสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการได้มาร่วมแสวงหาโอกาสและความร่วมมือผ่านการเจรจาธุรกิจทางระบบออนไลน์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทางความคิดสร้างสรรค์ ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ และพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืน