● บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผงาดขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” รายแรกในด้านตลาดยานยนต์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สะท้อนการเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดด
● ศูนย์บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองแบบครบวงจร พร้อมการสนับสนุนจากบริษัทในเครือฯ รวบรวมบริการด้านสินเชื่อ และด้านการประกันภัย เพื่อช่วยส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์ครบ จบได้ที่เดียว แบบ end-to-end เพื่อขยายฐานลูกค้ารถยนต์มือสอง สอดรับความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal
บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” รายแรกของวงการด้านตลาดยานยนต์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวางแผนรุกตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยอย่างเต็มตัวหลังมีผลประกอบการที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด คาร์โร (ประเทศไทย) ตั้งเป้าเปิด “CARRO Automall” ทั้งหมด 4 สาขาในเขตกรุงเทพและปริมณฑลภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับนำเทคโนโลยี AI เข้ามาพัฒนาแพลตฟอร์มระบบประมูลรถยนต์มือสองออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่งเสริมด้านความเชื่อมั่น สะดวกและโปร่งใสในทุกขั้นตอน เพื่อมุ่งขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
คาร์โรเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์สัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งเริ่มก่อตั้งในปี 2558 โดย Aron Tan และในปี 2564 คาร์โรได้รับการจัดอันดับที่ 1 ในการเป็นบริษัทที่มีการเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากสำนักข่าวที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการเงินอย่าง Financial Times และ Nikkei Asia และนอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาร์โรยังปรากฎเป็นข่าวหน้าหนึ่งด้านข่าวธุรกิจไปทั่วโลก หลังจากได้รับเงินระดมทุนมูลค่า 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรอบ Series C รอบล่าสุด ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผงาดขึ้นแท่นเป็น “ยูนิคอร์น” แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำ อาทิ SoftBank Vision Fund 2 อีกทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนที่มีชื่อเสียงอื่นๆ จากประเทศอินโดนีเซีย อย่าง EV Growth ร่วมด้วย
คาร์โรมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์และมีสาขาอื่นๆ คือประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย รวมทั้งสิ้น 4 ประเทศ ทั้งนี้แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ก็ไม่ส่งผลเชิงลบต่อการดำเนินธุรกิจของคาร์โร อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตของรายได้ในภาพรวมของธุรกิจ มากกว่า 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2020
คาร์โรเข้ามารุกธุรกิจในประเทศไทยในปี 2561 ในนามบริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีเป้าหมายหลักในการเป็นผู้นำด้านบริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองแพลตฟอร์มออนไลน์แบบครบวงจร หรือ “One-stop Shopping Place” ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ซื้อ-ขายรถยนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบไร้รอยต่อผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ “Seamless Online Purchase Experience” แก่ผู้บริโภค ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ “click.buy.drive.” ซื้อรถง่ายแค่ปลายนิ้วคลิก โดยมี อรรณพ “ไมเคิล” เกษตระทัต นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด
อรรณพกล่าวว่า “มูลค่าการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โร (ประเทศไทย) เติบโตขึ้นเป็น 6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 และส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ เกิดจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ในเรื่องความโปร่งใส ราคาดี และปลอดภัยในทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยลดความกังวลใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองของผู้บริโภค ให้สามารถทำธุรกรรมซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น”
คาร์โรพร้อมส่งมอบประสบการณ์ซื้อ-ขายรถยนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบไร้รอยต่อผ่านช่องทางออนไลน์ “Seamless Online Purchase Experience ”ภายใต้คอนเซปต์ “click.buy.drive.”
ไม่ว่าจะซื้อหรือขายรถยนต์ ก็สามารถทำรายการต่างๆด้วยตนเองแบบง่ายๆผ่านบนเว็บไซต์ th.carro.co ในกรณีที่ต้องการขายรถยนต์ แค่กรอกข้อมูลสั้นๆเพียง 1 นาที บน CARRO Express แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลและติดต่อไปยังผู้ลงขาย พร้อมนำข้อมูลเข้าสู่ระบบการประมูลผ่านแอพพลิเคชั่น CARRO Wholesale ที่มีสมาชิกผู้ซื้อมากกว่า 3,000 ราย และเมื่อจบรอบการประมูลนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการแจ้งราคาที่ดีที่สุดกลับไปยังผู้ขายอีกครั้ง หากผู้ขายพอใจในราคาก็สามารถนัดหมายเพื่อทำการเข้าตรวจสอบสภาพรถยนต์พร้อมรับเงินสดหน้างานทันที และในกรณีที่ผู้ลงขายยังไม่พอใจราคาที่ได้จากการประมูลนั้น ก็สามารถนำข้อมูลขึ้นประมูลได้อีกครั้ง ทั้งนี้เป็นการบริการฟรี!! แบบไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆกับผู้ลงขายทั้งสิ้น ในฝั่งของการฝากขายรถในนาม CARRO Automall นั้น เรามีการบริการผ่าน Delivery Center ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ซื้อรถที่จะช่วยลดความกังวลใจของลูกค้าในด้านคุณภาพของสินค้า โดยรถทุกคันจะผ่านการตรวจสภาพจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 200 จุด พร้อมการันตีความพึงพอใจ โดยสามารถคืนรถได้ภายใน 5 วัน และรับประกันคุณภาพนาน 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร และเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ทางคาร์โรให้ความสำคัญในด้านสุขอนามัยของทางลูกค้า และพนักงานเป็นหลัก จึงได้มีมาตรการเว้นระยะห่างและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนออกให้บริการแก่ลูกค้า โดยมีบริการส่งรถถึงหน้าบ้านหรือ Home Delivery สำหรับลูกค้าที่สนใจซื้อรถยนต์กับทางคาร์โร และคาร์โรยังมีบริการ Test Drive @Home เป็นบริการที่ส่งรถตรงถึงหน้าบ้านให้ทดลองขับด้วยเช่นกัน โดยกระบวนการซื้อ-ขายรถยนต์กับทาง CARRO Automall นั้น จะมีการสนับสนุนจากบริษัทในเครือฯ ทางด้านสินเชื่อจาก Genie Finance และด้านการประกันภัยอย่าง Genie Insurance สะท้อนถึงความสะดวกสบายแบบ One-Stop Shopping Place ตั้งแต่เริ่มจนจบในที่เดียว
ขยายฐานธุรกิจให้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภค ในรูปแบบของลานประมูลออนไลน์ ภายใต้บริการชื่อ “CARRO Floor Auction” เป็นช่องทางใหม่ที่รองรับรถที่เข้ามาในจำนวนที่มากจากสถาบันและบริษัทพันธมิตรต่างๆ โดยจะเป็นการนำเข้าการประมูลออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่ไปด้วยกัน จึงทำให้ช่องทาง CARRO Floor Auction นี้ เข้ามาตอบโจทย์ที่จะส่งผลให้ระบบการประมูลของคาร์โรที่มีคุณภาพอยู่เดิมแล้วนั้น มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่ทำให้ดีลเลอร์ของเราได้รับรถผ่านระบบลานประมูลที่โปร่งใสในทุกขั้นตอน และยังช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้แก่ฝั่งของทางเจ้าของรถอีกด้วย
“สุดท้ายนี้ด้วยความมั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพของเรา ผมมีความมั่นใจที่จะผลักดันแบรนด์ให้เติบโตขึ้น จนเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจอันดับต้นๆในตลาดรถยนต์มือสองของประเทศไทย เพราะท้ายที่สุดแล้วการที่เรานำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบที่มีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน โดยที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ก่อนทำการตัดสินใจซื้อนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์คาร์โรมากยิ่งขึ้น ผ่านประสบการณ์ซื้อ-ขายแบบ Seamless Online Purchase Experience ได้ง่าย ๆ ผ่านปลายนิ้วคลิก” อรรณพกล่าว