เอพี ไทยแลนด์ พร้อมก้าวสู่ปี 64 ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ‘สร้างผู้นำอิสระ เพิ่มโอกาสการแข่งขันที่มากกว่า – ปลูกฝังสัญชาตญาณนักคิด นักสร้างสรรค์นวัตกรรม – พลิกเกมส์ธุรกิจเดินหน้าเต็มลูปทรานฟอร์มทุกมิติด้วยดิจิทัล’ ตั้งเป้าปูพรม 147 โครงการทั่วไทย มูลค่าพร้อมขายกว่า 121,890 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 43,100 ล้านบาท เป้ายอดขายที่ 35,500 ล้านบาท
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์และทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่า “วิกฤตืโควิด-19 เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของวิกฤตทื่เกิดขึ้นและยังคงวนเวียนอยู่ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด หรือจะมีวิกฤติใหม่เกิดขึ้นอีกเมื่อใดและความเสียหายจะรุนแรงแค่ไหน โจทย์การดำเนินธุรกิจจึงท้าทายยิ่งขึ้น และนำไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ในการแข่งขัน โมเดลการทำธุรกิจแบบเดิมจึงไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดในอนาคต ซึ่งก้าวต่อไปจากนี้ เอพี ไทยแลนด์ จะไม่หยุดที่จะสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน เพื่อตั้งรับกับกฎกติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย”
ทั้งนี้ 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบไปด้วย
1) สร้างผู้นำอิสระ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่มากกว่า โดยในสภาวะที่ไม่ปกติ องค์กรยิ่งต้องมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น พร้อมเดินหน้าสร้างบทบาทของผู้นำในโลกยุคใหม่ให้เป็น ‘ผู้นำที่มีอิสระในการตัดสินใจ’ ภายใต้กรอบความรับผิดชอบต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงาน โดยมุ่งเน้นไปที่ ‘ความต้องการของลูกค้า’มากกว่า ,ข้อกำหนด/ข้อจำกัดของบริษัท’ ซึ่งเชื่อว่า การที่บริษัทฯ ให้อำนาจตัดสินใจอย่างอิสระแก่คนทำงานผู้ที่อยู่ใกล้ชิดลูกค้าโดยตรงแล้วจะทำให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพกว่าการตัดสินใจที่รวมศูนย์เพียงเพียงไม่กี่คนในองค์กร
2) การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม พนักงานเอพีทุกคนในองค์กรจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม ผ่านการปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมีระบบคิดตามหลัก Design Thinking ที่ให้ความสำคัญกับการค้นหา Unmet Need หรือความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าให้เกิดขึ้นกับพนักงานเอพีทุกคน เพื่อให้ทุกภาคส่วนงานใช้เป็นหลักคิดพื้นฐาน ผสานเข้ากับจุดแข็งของตนเองในการร่วมมือเพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น วันนี้การสร้างนวัตกรรมจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “ฝันถึงสิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่”เท่านั้น แต่นวัตกรรมที่มีค่าที่สุด คือ สิ่งที่สามารถตอบ Unmet Need ของลูกค้าได้เป็นสำคัญ แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
3) พลิกเกมธุรกิจเดินหน้าเต็มลูป ทรานฟอร์มทุกมิติด้วยดิจิทัล (Everything Digital) คือ การนำทุกมิติของการดำเนินงานเข้าสู่ระบบดิจิทัลแบบองค์รวม (Holistic Digital Management) ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้า พันธมิตรที่ทำงานร่วมกับเอพี หรือพนักงาน เพื่อเป็นรากฐานสนับสนุน 2 ยุทธศาสตร์ข้างต้น ทั้งนี้ การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองลูกค้า ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมจำเป็นต้องมีข้อมูลที่รวดเร็ว และถูกต้อง เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ค้นหา Unmet Need ของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อส่งมอบ ‘ประสบการณ์การใช้ชีวิต’ ผ่านสินค้าและบริการที่มีความสะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ
สำหรับทิศทางและแผนการดำเนินงานในปีนี้ อนุพงษ์ กล่าวว่า
“เอพี ไทยแลนด์ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาอยู่ทั่วประเทศมากถึง 147 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 121,890 ล้านบาท โดยเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้จำนวน 34 โครงการ มูลค่าประมาณ 43,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 30 โครงการ มูลค่าประมาณ 28,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,200 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการขายที่กระจายไปในทุกทำเลทั้งในกทม.และต่างจังหวัดมากถึง 113 โครงการ มูลค่าสินค้าพร้อมขายประมาณ 78,890 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าในปี 2564 รับรู้รายได้ (รวม 100% JV) 43,100 ล้านบาท และเป้ายอดขายที่ 35,500 ล้านบาท และด้วยวิสัยทัศน์ Empower Living ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา เอพีเติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงสุดเกินจากคาดการณ์ โดยมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโด (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 46,130 ล้านบาท เติบโตกว่า 42% จากปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 4,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 38% ด้านสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.71 เท่า