โ
ปี 2563 ถือเป็นปีที่ยากลำบากที่สุดปีหนึ่ง หลายคนตั้งตารอการมาถึงของปี พ.ศ. 2564 และวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่จะนำไปสู่การฟื้นตัวระดับโลก และบริษัทเฟดเอ็กซ์ ในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลก จึงได้กลายมาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดส่งวัคซีนครั้งนี้
เฟดเอ็กซ์เข้าใจดีว่าการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 เป็นงานที่สำคัญและท้าทายเป็นอย่างยิ่ง เพราะวัคซีนนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูธุรกิจและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูชุมชนของเราอีกด้วย เฟดเอ็กซ์มั่นใจว่าจะสามารถข้ามผ่านความท้าทายทั้งด้านการจัดส่งพัสดุปริมาณมหาศาลทั่วโลก และการจัดการกับพิธีการศุลกากรในแต่ละภูมิภาค
ความท้าทายด้านการขนส่งวัคซีนระดับโลก
การค้นคว้าวัคซีนถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะความท้าทายที่แท้จริงคือการสร้างและควบคุมซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อส่งวัคซีนจากห้องทดลองไปยังผู้ใช้ทั่วโลก ในขณะนี้มีวัคซีนมากกว่า 150 ชนิดที่อยู่ในระยะวิจัย และมีวัคซีนจำนวนกว่า 10,000 ล้านโดสที่ต้องถูกจัดส่งทั่วโลกแบบควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัดตลอดการขนส่ง
ในปัจจุบัน เฟดเอ็กซ์เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ปรับการทำงานเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตโรคโควิด-19 โดยได้ทำการลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงบริษัทให้มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เครือข่ายของเฟดเอ็กซ์ยังสามารถขนส่งวัคซีนผ่านโซลูชั่นห่วงโซ่ความเย็น (cold chain) ที่ติดตามสถานะได้แบบเรียลไทม์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
เฟดเอ็กซ์มีประวัติการขนส่งวัคซีนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในทุกฤดูกาล เป็นเวลายาวนานกว่าทศวรรษ
การควบคุมอุณหภูมิคือกุญแจสำคัญของการขนส่ง
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่กำลังทำการทดสอบในขณะนี้ จะต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 80 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วินาทีที่ถูกบรรจุลงขวด ไปจนถึงช่วงการจ่ายยาให้กับคนไข้ ซึ่งทางเฟดเอ็กซ์ได้ใช้เทคโนโลยี FedEx SenseAware ID เครื่องเซนเซอร์ตรวจจับอุณภูมิ ความชื้น และสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ขนาดเล็กน้ำหนักเบา ซึ่งมีประโยชน์และจำเป็นต่อการขนส่งวัคซีนที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด เพราะจากผลการวิจัยขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) พบว่าในแต่ละปี วัคซีนที่ถูกส่งไปทั่วโลกเกิดการเสื่อมสภาพมากถึงร้อยละ 50 ของจำนวนทั้งหมด
ในเวลาสามปีที่ผ่านมา เฟดเอ็กซ์ได้เพิ่มศูนย์จัดการห่วงโซ่ความเย็น (cold chain facilities) อีก 10 แห่งทั่วโลก ทำให้เครือข่ายนานาชาติของเฟดเอ็กซ์มีศูนย์อำนวยความสะดวกเป็นจำนวนกว่า 90 แห่งในปัจจุบัน และมีแผนเพิ่มจำนวนในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้เรายังเพิ่มขีดความสามารถในการส่งน้ำแข็งแห้งทางอากาศเป็น 500,000 รอบการจัดส่งต่อเดือน ช่วยให้สามารถขนส่งอุปกรณ์เพื่อสุขภาพที่มีความสำคัญสูงอย่างวัคซีน ไปสู่ปลายทางกว่า 100 ประเทศ
การร่วมมือระดับนานาชาติเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
การจัดส่งวัคซีนจะสำเร็จได้เมื่อมีการประสานงานกันระดับโลกผ่านหลายช่องทาง ร่วมกับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นอกจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อย่างบริษัทเฟดเอ็กซ์ บริษัทเภสัชกรรม หน่วยงานรัฐบาล และผู้ให้บริการด้านสุขภาพทุกฝ่าย
พร้อมรับความสำเร็จ
สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสได้มอบบทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับการขนส่งในภาวะฉุกเฉินให้แก่บริษัท และเฟดเอ็กซ์ก็ได้ผลักดันตนเองเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ โดยทางบริษัทได้ทำการจัดส่งส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตผู้คนจากโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เครื่องทดสอบเชื้อ และอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกจำนวนมาก
เฟดเอ็กซ์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐบาลและลูกค้าที่ทำธุรกิจด้านสุขภาพ เพื่อสร้างแผนการกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขนส่งในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง
คำนวณต้นทุนแรงงานมนุษย์และต้นทุนทางเศรษฐกิจ
เราตระหนักถึงความท้าท้ายในภารกิจที่เรากำลังจะประสบในปี พ.ศ. 2564 เป็นอย่างดี ว่าการขนส่งในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่เรามั่นใจในการวางแผน ทรัพยากรที่มี เครือข่ายอันกว้างขวาง รวมถึงประสบการณ์อันเชี่ยวชาญในการจัดส่งวัคซีน จะช่วยเตรียมความพร้อมให้เฟดเอ็กซ์สามารถจัดการความท้าทายนี้ได้สำเร็จ
ที่สำคัญที่สุดคือ เราควรให้ความสำคัญกับ สาเหตุ เท่ากับ วิธีการ เฟดเอกซ์มุ่งหวังไปยังการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกไปพร้อมกับการช่วยชุมชนต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก