“พาร์ค ลักชัวรี่” กางพอร์ตแบรนด์คอนโดไฮเอนด์ “ไนท์บริดจ์” 31,000 ล้าน ชูความสำเร็จ 4 แบรนด์ย่อย หลังสร้างดีเอ็นเอแกร่ง สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ พร้อมสร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นสู่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้อวดโฉมโครงการสร้างเสร็จใหม่ “ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช” มูลค่าโครงการ 2,600 ล้าน ตอบโจทย์ “ความเป็นที่สุด” และการก้าวสู่ New Japanese Area ของย่านอ่อนนุชรับสถานการณ์คนญี่ปุ่นย้ายโซน ด้วยโปรสุดพิเศษ เริ่มต้น 3.18 ล้านบาท เล็งเปิดพรีเซลโครงการร่วมทุนเกาหลีใต้ “ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4” มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ตุลาคม นี้
สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ในเครือ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ก้าวเข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์มาเกือบ 5 ปี
บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องชโดยเฉพาะในโครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร ซึ่งถือเป็นโครงการแฟล็กชิพโครงการในเซ็กเมนท์ดังกล่าว ล่าสุด
จนถึงไตรมาส 2/2563 บริษัทได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ไนท์บริดจ์แล้วทั้งสิ้น 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 31,000 ล้านบาท ผ่าน 4 แบรนด์ย่อย ได้แก่
- ไนท์บริดจ์
- ไนท์บริดจ์ ไพร์ม
- ไนท์บริดจ์ สเปซ
- ไนท์บริดจ์ คอลลาจ
“ดีเอ็นเอของแบรนด์ไนท์บริดจ์ คือ การพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับของกลุ่ม HIGH-END เราคัดสรรทำเลที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย หลากหลาย ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การก่อสร้าง การออกแบบฟังก์ชั่นต่างๆ
เพื่อให้ห้องพักอาศัยและตัวโครงการสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จ
ริง ในราคา 150,000-200,000 บาทต่อ ตร.ม.” สิริพงศ์ กล่าว
นอกเหนือจากจุดเด่นข้างต้นแบรนด์ย่อยแต่ละแบรนด์ยังมีจุดเด่นเพิ่มเติมเป็นของตัวเอง เริ่มจาก ไนท์บริดจ์ ไพร์ม (KnightsBridge Prime) คือ การตอบโจทย์ความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ เริ่มตั้งแต่ด้านทำเล (Prime Area) ด้านการออกแบบ (Prime Design)
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (Prime Facility) ไนท์บริดจ์ สเปซ (KnightsBridge Space) คือ ความโอ่อ่าของพื้นที่ โดยไนท์บริดจ์ สเปซทุกโครงการจะมีห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นแบบ Duo Space ที่มีเพดานสูงถึง 4.2 เมตร ไนท์บริดจ์ คอลลาจ (KnightsBridge Collage) คือ การตกแต่งที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ของพื้นที่ส่วนกลางสไตล์อังกฤษ
โดยดีเอ็นเอและความแข็งแกร่งของทุกแบรนด์ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้แบรนด์ไนท์บริดจ์สามารถสร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์กลับสู่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
สิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 แบรนด์ไนท์บริดจ์จะยังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนโครงการสร้างเสร็จใหม่ (New Project Completion) และโครงการเปิดตัวใหม่ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่อีก 5 โครงการได้แก่
- โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (KnightsBridge Prime Onnut) มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท
- โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท107 (Knightsbridge Collage Sukhumvit107) มูลค่าโครงการ 1,080 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2563
- โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน (KnightsBridge Space Ratchayothin) มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท
- โครงการไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ (Knightsbridge Kaset Society) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท
- โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม9 (Knightsbridge Space Rama9) มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/2563
สำหรับโครงการ ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช เป็นอาคาร 47 ชั้น 1 อาคารสูงที่สุดในย่านอ่อนนุช ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่ 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 77 ติดบิ๊กซี อ่อนนุช พัฒนาขึ้นด้วยแนวคิด “ความเป็นที่สุดเท่านั้น…ที่สำคัญ”
โดดเด่นด้วย Prime Area ระยะห่างจาก BTS อ่อนนุช เพียง 600 เมตร และใกล้โครงข่ายรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ สายสีเขียว (สุขุมวิท) สถานีอ่อนนุชเชื่อมต่อใจกลาง CBD ชั้นนำของกรุงเทพฯ ตลอดจนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว– สำโรง) ใส่ใจกับ Prime Design เน้นโทนสีดำ-ทองให้ความรู้สึกหรูหราอย่างมีระดับ มาพร้อมวัสดุระดับพรีเมียม ทุกๆ ห้องมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน (Floor to Ceiling) ถึง 3 เมตรให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย และเติมเต็มความสุขของการใช้ชีวิตด้วย Prime Facility มอบสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร อาทิ Auto Parking รองรับการจอดได้ถึง 65%, EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รองรับการเปลี่ยนผ่านแห่งอนาคต, พื้นที่ส่วนกลางถึง 3 ชั้น พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่, Executive Meeting Room, Private Meeting Room, Sky Co-Working Space ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่, ห้อง Steam แยกชาย-หญิง, สระว่ายน้ำที่มีส่วน Pool Bar กับ Pool Bed, และFitness ขนาดกว่า 100 ตร.ม. ในแบบ Double Space ฯลฯ
“ทำเลอ่อนนุช กำลังจะกลายเป็นย่านใหม่สำหรับชาวญี่ปุ่น หรือ New Japanese Area เพราะหลังจากเกิดสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ชาวญี่ปุ่นและบริษัทญี่ปุ่นในไทยจำนวนมากมองหาทำเลการอยู่อาศัยใหม่ที่มีราคาปรับตัวลงมาจากย่านพร้อมพงศ์และทองหล่อ
แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกย่านไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น
ซึ่งทำเลอ่อนนุชถือเป็นทำเลที่ชาวญี่ปุ่นกำลังให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้”
สิริพงศ์ กล่าว
โครงการเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่
- โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4 มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาทโดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท จีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น (GS E&C) บริษัทยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกของเกาหลีใต้ คาดว่าจะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการในช่วง ตุลาคม นี้