The Hub Thailand (เดอะฮับไทยแลนด์) ตลาดสินค้าไทยออนไลน์ใหม่ แหล่งการซื้อ-ขายสินค้าไทยที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในไทย พัฒนาโดยฝีมือคนไทยเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ชูไฮไลท์ “ซื้อง่าย-ส่งเร็วภายใน 3 ชั่วโมง” หวังช่วยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยหลังวิกฤตโควิด-19 เต็มกำลัง ยกระดับขีดความสามารถการขายสู่ตลาดทั่วโลก
สรเชษฐ์ วรรณธนาเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อี-มาร์เก็ตเพลส บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยว่า ได้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการซื้อ-ขายสินค้าและบริการไทยขึ้น ภายใต้ชื่อ “The Hub Thailand” บนแนวคิด “เว็บไซต์คนไทยเพื่อคนไทย พร้อมผลักสินค้าไทยสู่ตลาดสากลด้วยบริการที่ครบวงจร” โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างคือ เป็นช่องทางการซื้อ-ขายสำหรับสินค้าแบรนด์ไทยโดยเฉพาะ และเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการไทยและสินค้าไทยออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีระบบความปลอดภัยสูงสุดมาตรฐานระดับโลก
“สินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ผสานภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญา และศิลปวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันจนไม่มีใครเทียบได้ ดังนั้น The Hub Thailand จะเป็นเหมือนแหล่งรวบรวมสินค้า ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพของประเทศไทยผ่านระบบออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมสินค้าของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งตลาดในประเทศและทั่วโลก เพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว” สรเชษฐ์กล่าว
“The Hub Thailand” คือแพลตฟอร์มสินค้าไทยออนไลน์ และเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการไทยและสินค้าไทยออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้บริการการซื้อ-ขายสินค้าไทยออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thehubthailand.biz และแอพพลิเคชั่น The Hub Thailand บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Device) ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงระดับสากล สามารถลงขายสินค้าแบรนด์ไทยที่ผลิตในประเทศไทย-โดยคนไทยได้ทุกประเภท ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมบริการ “Fast Delivery” ส่งเร็วภายใน 3 ชั่วโมง” และโปรโมชั่นราคาสุดพิเศษสุดของร้านค้าและแบรนด์สินค้าไทยชั้นนำที่จะยกขบวนมาลดกระหน่ำหมุนเวียนตลอดทั้งปี อาทิ คูปองส่วนลดสุดคุ้ม, โปรซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าความงาม, สินค้าแฟชั่น, ขนม, ผลไม้, เครื่องครัว รวมถึงสินค้าราคาส่งสำหรับพ่อค้า-แม่ค้าสามารถซื้อไปขายต่อได้อีกด้วย ซึ่งล้วนเป็นสินค้าคุณภาพที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยโดยทั้งสิ้น
นอกจากนี้ The Hub Thailand ยังมีทีมงานทำการตลาดเพื่อโปรโมทสินค้าของสมาชิกทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือคนไทยและสินค้าไทยให้มีโอกาสในการสร้างรายได้และฟื้นฟูธุรกิจหลังช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) เผยว่า มูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซไทย (e-commerce) ปี 2562 มีมูลค่า 163,300 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยในปีนี้ ผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตที่ 19% เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14,900 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งประเมินเป็นมูลค่าใช้จ่ายรวมบนระบบออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นทั้งปี 87,700 ล้านบาทจากช่วงเวลาปกติ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการควรเร่งขยายช่องท่องธุรกิจและสร้างรายได้บนระบบออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ หรือ New Normal และเพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนเข้าสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น
“ภาพรวมตลาดอี-คอมเมิร์ซมีการขยายตัวสูงมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเจาะตลาดและสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่เพื่อสร้างยอดขาย เรามั่นใจว่า อี-คอมเมิร์ซจะเป็นทางรอดของธุรกิจค้าขายในยุคหลังโควิด-19 เราจึงอยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการไทยและเจ้าของสินค้าแบรนด์ไทยเข้าร่วมกับ The Hub Thailand โดยสามารถลงขายสินค้าได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น” นายสรเชษฐ์กล่าวเสริม
“The Hub Thailand” สมัครสมาชิกฟรีและลงขายได้ฟรี! ตั้งแต่วันนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 02 764 1956 หรืออีเมล์ support@thehubthailand.biz ภายในวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. (ไม่รวมวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์) และติดตามข่าวสารผ่าน Facebook: The Hub Thailand และ Line: @thehub_Thailand